รีวิว World of Dragon Nest ผจญภัยรังมังกรฉบับมือถือ Open World

รีวิว World of Dragon Nest ผจญภัยรังมังกรฉบับมือถือที่เป็น Open World แล้ว

 ก็สิ้นสุดการรอคอยของแฟนๆ นักทะลวงรังมังกรกันแล้วนะครับกับการเปิดให้บริการของเกมอย่าง World of Dragon Nest อีก 1 เกมแนว mmorpg สุดฮิตจากแพลตฟอร์ม PC ที่ถูกพัฒนาเป็นเวอร์ชั่นใหม่ให้ได้เล่นกันบนมือถือ แน่นอนว่าการลงมือถือครั้งนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงของซีรี่ส์ Dragon Nest เป็นอย่างมากเลยทีเดียวครับ รวมไปถึงตอนนี้ตัวเกมก็เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วด้วย ก็เลยจะมารีวิวกันเล็กน้อยว่า World of Dragon Nest นั้นมีจุดเด่นอะไรบ้าง มีข้อแตกต่างกับ PC ประมาณไหน ไปดูกันเลยครับ

ผู้กล้า 5 อาชีพที่ไม่ล็อคเพศแล้ว

 จะเรียกว่าเป็นความดีงามก็ได้ หรือมันควรจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่บน PC แล้วก็ดีครับสำหรับเรื่องการสร้างตัว เพราะว่าใน World of Dragon Nest จะมีให้เล่นด้วยกันทั้งหมด 5 อาชีพ แต่ว่าจะไม่มีการล็อคเพศอีกต่อไปแล้ว! แต่ละอาชีพสามารถสร้างเพศใดก็ได้ไม่ใช่ว่า Warrior ต้องผู้ชาย Archer เป็นผู้หญิงอย่างเดียวแล้วครับ โดยอาชีพทั้ง 5 สายมีดังต่อไปนี้

 Warrior – สายบู๊ระยะประชิด เน้นการโจมตีที่รุนแรง หนักหน่วงเป็นหลัก
 Archer – นักธนูและหน้าไม้ เน้นการโจมตีระยะกลางและไกล สามารถโจมตีได้อย่างต่อเนื่อง
 Sorceress – จอมเวทที่ใช้ธาตุต่างๆ ในการโจมตี โดดเด่นเรื่องการโจมตีด้วยเวทมนต์จากระยะไกลเป็นวงกว้างและรุนแรง
 Cleric – นักบวชผู้รับใช้แสงศักดิ์สิทธิ์ มีการโจมตีทั้งแบบระยะประชิดด้วยคอมโบโล่+กระบอง และระยะกลางด้วยพลังสายฟ้า
 Slayer – นักล่ามือสังหารที่มีความคล่องแคล่วว่องไวที่สุดในบรรดาทุกอาชีพ เน้นการโจมตีที่รวดเร็วและต่อเนื่องมากๆ

ระบบสกิลตามอาวุธและบทบาทหน้าที่

 สำหรับเรื่องสกิลของแต่ละอาชีพนั้น World of Dragon Nest จะปรับเปลี่ยนใหม่เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับผู้เล่นครับด้วยการที่เอาระบบการเปลี่ยนอาชีพออกไป โดยทุกอาชีพจะสามารถใช้อาวุธได้ 2 ประเภทอยู่เหมือนเดิม แต่สกิลจะแตกต่างกันไปตามแต่ละอาวุธที่ใช้ แต่ละอาวุธจะมีสกิลอยู่ 3 ประเภทด้วยกันก็คือ

 สกิลใช้งาน – เป็นสกิลสีฟ้ากดใช้ตามปกติ เป็นสกิลพื้นฐานทั่วไป
 สกิลต่อเนื่อง – เป็นสกิลสีแดงที่เมื่อเราโจมตีใช้สกิลไปเรื่อยๆ จนเกจพลังเต็ม เราสามารถกดใช้สกิลเหล่านี้ต่อจากสกิลใช้งานทั่วไปได้
 สกิลอัลติเมท – เป็นสกิลท่าไม้ตายที่มีความรุนแรงมาก แต่ว่าก็คูลดาวน์นานเช่นกัน

 ซึ่งไม่ต้องห่วงไปว่าจะต้องมาเลือกสายอาวุธครับ เพราะมันสามารถสลับอาวุธใช้ไปมาระหว่างสู้ได้และค่อนข้างจำเป็นไม่น้อย เพราะเราสามารถลากสกิลทั่วไปมาใส่ได้เพียงแค่ 3 สกิลเท่านั้น (ฟ้า 3 แดง 3 อัลติเมท 1) ระหว่างที่รอคูลดาวน์สกิลเราก็สลับไปใช้อีกอาวุธแทนเพราะคูลดาวน์มันแยกกันก็จะทำให้สามารถใช้สกิลได้ตลอดเวลาครับ แต่เท่านี้ยังหลากหลายไม่พอ ยังมีระบบที่เรียกว่า สกิลบทบาท ซึ่งเป็นสกิลที่จะคอยกำหนดหน้าที่หรือ Role ของตัวละครนั้นๆ ด้วยครับว่าจะเป็นสายโจมตี สายป้องกัน หรือสายสนับสนุน โดยทุกอาชีพจะมีสายโจมตีติดตัวให้อยู่แล้ว แต่อีกสายจะแล้วแต่อาชีพ อย่างเช่น Cleric จะเป็น โจมตีกับป้องกัน แต่ Archer จะเป็นโจมตีกับสนับสนุน เป็นต้น โดยสกิลบทบาทนี้จะมีทั้งแบบใช้งานและติดตัว สามารถติดตั้งได้อย่างละ 3 สกิล แยกกันในแต่ละบทบาทไปครับ 

Open World ตามฉบับมือถือ

 อย่างที่บอกไปข้างต้นคือ World of Dragon Nest จะกลายเป็น mmorpg open world แทนฉบับ pc เดิมที่เป็น action mmorpg ตั้งปาร์ตี้แล้วลงดันเจี้ยนกันเฉพาะกลุ่ม ตัวเกมก็เลยกลายเป็นการรับเควสต์จาก NPC แล้วก็ไล่ทำเควสต์ที่พบเจอผู้เล่นอื่นจำนวนมากมาแย่งมอนทำเควสต์ได้ตามปกติทั่วไป แต่พอถึงช่วงส่วนที่เป็นเนื้อเรื่องสำคัญที่ต้องต่อสู้กับบอส ก็จะใช้ระบบการตัดเข้า Instance Dungeon แทนครับ นอกจากนี้ก็มีการเพิ่มระบบ Auto เข้ามาช่วยเหลือในการเดินเควสต์ด้วย แต่ว่าจะใช้ไม่ได้กับเควสต์พวกที่เป็นการคุยกับ NPC หรือเก็บไอเทมทั่วไปนะ อันนั้นต้องคุยเอง รวมไปถึงพวกเควสต์ที่ลา่กไปลง Instance Dungeon ด้วย ก็ต้องเล่นเองเช่นกันครับ แต่เท่านี้ก็ช่วยอำนวยความสะดวกได้เยอะแล้วหล่ะ

ระบบดันเจี้ยนที่ถูกเปลี่ยนแปลง

แม้ว่าจะเป็น Open World แล้ว แต่ระบบดันเจี้ยนก็ยังคงอยู่เหมือนเดิมครับ ทว่ามันถูกเปลี่ยนไปเยอะพอสมควรเลยทีเดียว โดยระบบดันเจี้ยนใน World of Dragon Nest จะถูกย้ายออกมาเป็นอีกเมนูแยกไปเลย สามารถกดเข้าเมื่อไหร่ก็ได้ แบ่งออกเป็น 5 ประเภทดังต่อไปนี้ครับ

 Abyss – เป็นดันเจี้ยนสำหรับเก็บแต้มสกิลรูปแบบต่างๆ กับหินตีบวกอาวุธ ชุดเกราะ สามารถปรับระดับความยากของดันเจี้ยนนั้นๆ เพื่อรับของรางวัลที่มากขึ้นได้ครับ สามารถเข้าได้ 2 รอบ/วัน ลงได้แค่คนเดียว
 Special Dugeon – ดันเจี้ยนสำหรับเก็บเงินและค่าประสบการณ์โดยเฉพาะ สามารถเลือกระดับความยากได้เช่นกันครับ แต่จะลงได้แค่วันละ 1 รอบ / ดันเจี้ยนเท่านั้น ลงได้แค่คนเดียวเช่นกัน
 Nest – ดันเจี้ยนที่ยกส่วน Nest จากเวอร์ชั่น PC มา โดยหลักๆ จะเป็นการหาอุปกรณ์สวมใส่ ดันเจี้ยนนี้จะไม่สามารถปรับความยากได้ครับ จะยากขึ้นแค่ตาม Nest ที่ลงเท่านั้น ของรางวัลก็จะเป็นพวกอุปกรณ์สวมใส่ หินตีบวกอัปเลเวลและโซลสโตนพิเศษที่เอาไว้สร้างของ สามารถเข้าได้ 4 คน
 Nest Hell – คิดซะว่าเป็นดันเจี้ยนขั้นสูงของ Nest ปกติก็ได้ครับ บอสจะโหดกว่า รวมไปถึงของรางวัลที่ได้ก็จะดีกว่า เยอะกว่า และหลากหลายกว่า
 Event – อันนี้ตามชื่อเลย จะเป็นดันเจี้ยนตามกิจกรรมของเกมแล้วแต่เวลาที่จัดครับ

การเสริมความเก่งให้กับตัวละคร

 สำหรับเรื่องการอัพเกรดความเก่งให้กับตัวละครนั้นเราสามารถเช็คได้จากระบบการเติบโตของตัวละครได้เลยครับ โดยจะมีการตัดเกรดการเติบโตของตัวละครไว้ให้ในแต่ละหมวดไม่ว่าจะเป็น การอัพเลเวลสกิล การสวมใส่ระดับอุปกรณ์ที่เหมาะกับเลเวล การทำภารกิจต่อสู้ การอัพเลเวล(ที่อยู่ในโหมดหลอม) การเสริมพลังให้กับอุปกรณ์ และการใส่เพชร Dragon Jade เข้ากับอุปกรณ์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีการแยกเกรดออกมาให้ดูว่าเราอยู่ในระดับไหน เหมาะสมกับตัวละครตอนนี้แค่ไหน จะได้รู้ว่าเราควรเสริมพลังให้กับตัวละครตรงจุดไหนดีถึงจะเก่งขึ้น เป็นจุดที่ช่วยเช็คความเก่งของตัวละครเราได้ดีมากครับ

Colosseum ประลองความเก่ง

 สำหรับใครที่เป็นสาย PvP ก็ไม่ต้องเป็นห่วงไปครับ เพราะว่า World of Dragon Nest เองก็มีโหมดที่เอาไว้ให้ได้ประลองฝีมือกันอย่างโหมดที่ชื่อว่า Colosseum (ขออภัยที่ไม่มีรูปให้ดู เพราะปลดตอนแถวๆ เลเวล 29 แล้วเซิร์ฟหลุดอย่างบ่อย ต่อคิวเข้าอย่างนาน ย้ายเซิร์ฟเล่นอีก) ซึ่งก็จะมีให้เลือกเล่นด้วยกันทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่

 Single PvP – โหมดเจอกันแบบ 1-1 เป้าหมายก็คือกำจัดฝ่ายตรงข้ามลงให้ได้ มีเวลาจำกัด 3 นาที
 Team Match – โหมดแข่งกันเป็นทีม อันนี้จะนับเป็นแต้ม ใคร 40 แต้มก่อนเป็นฝ่ายชนะ มีเวลาจำกัด 5 นาที
 Free for All – โหมดตีกันมั่วแบบยับๆ ไม่มีฝ่าย ใครมีจำนวนสังหารมากที่สุดภายใน 5 นาทีจะเป็นผู้ชนะ

 นอกจากทั้งหมดข้างบนที่เขียนมาก็จะมีพวกระบบเบื้องต้นต่างๆ ตามสไตล์เกม mmorpg มือถือทั่วไปอย่างเช่น ระบบกิลด์ เควสต์ประจำวัน/สัปดาห์ ฉายา สมุดภาพ คอสตูม หรือระบบจากเวอร์ชั่น PC อย่างระบบมิตรภาพระหว่าง NPC ที่เมื่อให้ของ NPC จนสนิทกันก็จะได้ของพิเศษๆ อย่างพวกอีโมชั่นตอบแทนกลับมาเป็นต้น ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงจกาเวอร์ชั่นเดิมสู่การเป็น Open World ฉบับมือถือในชื่อ World of Dragon Nest ได้ดี และยังคงมีความเป็น Dragon Nest ปกติปะปนอยู่ด้วย น่าเสียดายที่ช่วงเปิดใหม่ๆ เซิร์ฟเวอร์ค่อนข้างมีปัญหาการเชื่อมต่อมากๆ จนตอนนี้ก็เริ่มมีเซิร์ฟเวอร์เยอะขึ้น คนเริ่มกระจายออกมาบ้างเล็กน้อย (ผมก็หนีมา ขี้เกียจรอคิวยาว) ก็ลื่นไหลมากขึ้นแล้วครับตอนนี้ ใครที่สนใจก็สามารถดาวน์โหลดได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างเลยจ้า